สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ได้ประกาศยืนยันอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับการจัดการแข่งขันฟุตบอลโลกในปี 2030 และ 2034 โดยมีการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจและเป็นประวัติศาสตร์สำหรับวงการฟุตบอลโลก การจัดงานครั้งนี้ไม่เพียงแต่สะท้อนถึงความสำคัญของกีฬาในระดับโลก แต่ยังแสดงถึงความร่วมมือระหว่างหลายประเทศและภูมิภาคที่แตกต่างกัน
ฟุตบอลโลก 2030: การจัดข้ามทวีปครั้งแรก เจ้าภาพร่วมจาก 3 ทวีป
ฟุตบอลโลก 2030 จะเป็นการฉลองครบรอบ 100 ปีของการแข่งขัน ฟุตบอลโลก โดยฟีฟ่าได้เลือกให้มีเจ้าภาพร่วมจาก 6 ประเทศใน 3 ทวีป ได้แก่
- โมร็อกโก, สเปน และโปรตุเกส จะเป็นเจ้าภาพหลัก
- อาร์เจนตินา, อุรุกวัย และปารากวัย จะรับหน้าที่จัดการแข่งขันใน 3 เกมแรก
การแข่งขันครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่ฟุตบอลโลกถูกจัดขึ้นในหลายทวีปพร้อมกัน โดยมีเป้าหมายเพื่อเฉลิมฉลองความสำคัญของฟุตบอลโลกที่เริ่มต้นครั้งแรกในปี 1930 ที่อุรุกวัย ซึ่งจะเป็นสถานที่เปิดสนามในปี 2030 ด้วย
สิทธิพิเศษสำหรับเจ้าภาพร่วม
ทั้ง 6 ประเทศที่ได้รับเลือกจะได้รับสิทธิ์เข้ารอบสุดท้ายโดยอัตโนมัติ ซึ่งถือเป็นความพิเศษสำหรับการจัดงานครั้งนี้ นอกจากนี้ ฟุตบอลโลก 2030 จะมีทั้งหมด 48 ทีม เข้าร่วมแข่งขัน รวมทั้งสิ้น 104 แมตช์ มากกว่าการแข่งขันในอดีต
ซาอุดีอาระเบีย: เจ้าภาพฟุตบอลโลก 2034
ฟีฟ่าได้ยืนยันให้ซาอุดีอาระเบียเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลโลกปี 2034 อย่างเป็นทางการ โดยซาอุดีอาระเบียจะกลายเป็นประเทศในตะวันออกกลางชาติที่สองที่ได้รับเกียรติในการจัดงานนี้ ต่อจากกาตาร์ในปี 2022
โครงสร้างพื้นฐานและสนามกีฬา
เพื่อรองรับการแข่งขัน ซาอุดีอาระเบียกำลังดำเนินการสร้างสนามกีฬาใหม่จำนวน 11 แห่ง และปรับปรุงสนามเดิมอีก 4 แห่ง รวมถึงเมืองเจ้าภาพหลักอย่าง:
- ริยาด
- เจดดาห์
- อัล โคบาร์
- อีบฮา
- นีออม (เมืองนวัตกรรมใหม่)
สนามสำคัญที่จะใช้สำหรับพิธีเปิดและรอบชิงชนะเลิศคือ คิง ซัลมาน อินเตอร์เนชั่นแนล สเตเดียม ซึ่งมีความจุถึง 92,760 ที่นั่ง
กระแสตอบรับและข้อวิจารณ์
เสียงวิจารณ์จากสื่อตะวันตก
แม้ว่าซาอุดีอาระเบียจะได้รับเลือกให้เป็นเจ้าภาพ แต่ก็มีเสียงวิจารณ์จากสื่อต่างประเทศเกี่ยวกับประเด็นด้านสิทธิมนุษยชน การกีดกันเสรีภาพของสตรี และกรณีอื่น ๆ เช่น คดีฆาตกรรมจามัล คาช็อกกี นักข่าวชื่อดังในปี 2018 นอกจากนี้ สมาคมฟุตบอลของนอร์เวย์และสวิตเซอร์แลนด์ยังได้แสดงความกังวลต่อการตัดสินใจครั้งนี้
โอกาสในการพัฒนาและส่งเสริมภาพลักษณ์
อย่างไรก็ตาม การเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลกถือเป็นโอกาสสำคัญสำหรับซาอุดีอาระเบียในการส่งเสริมภาพลักษณ์ประเทศ รวมถึงการพัฒนาเศรษฐกิจและโครงสร้างพื้นฐานให้ทันสมัยมากขึ้น
บทสรุป
การประกาศเจ้าภาพฟุตบอลโลกปี 2030 และ 2034 ถือเป็นก้าวสำคัญของวงการฟุตบอล โดยเฉพาะการจัดงานข้ามทวีปครั้งแรกในประวัติศาสตร์ และการเลือกซาอุดีอาระเบียเป็นเจ้าภาพในปี 2034 ซึ่งสะท้อนถึงความเปลี่ยนแปลงและความหลากหลายในวงการกีฬา แม้ว่าจะมีเสียงวิจารณ์ แต่ก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าฟุตบอลโลกทั้งสองครั้งนี้จะสร้างความตื่นเต้นและความทรงจำใหม่ ๆ ให้กับแฟนบอลทั่วโลก